สถาบันอิศรา รับภารกิจปั้นนักข่าวรุ่น เยาว์ร่วมจัดโครงการ KTB เยาวชนคนรักข่าว รุ่น 3

เพื่อ เพิ่มทักษะการเขียนข่าว การผลิตข่าวในรูปแบบต่างๆ ให้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากทั่วประเทศ โดย บมจ.ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับสถาบันอิศราและสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หวังปลูกฝังให้เยาวชนรักการทำข่าวอันจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการก้าวเข้าสู่ วิชาชีพสื่อสารมวลชนต่อไป...

นาย ชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา กล่าวว่า สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะของบุคลากรผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน เพื่อพัฒนาศักยภาพในการทำข่าวทั้งสื่อมวลชนในส่วนกลางและสื่อมวลชนท้องถิ่น ขณะเดียวกันการปลูกฝังเยาวชนให้มีความรู้ทางด้านสื่อมวลชนเพื่อเป็นพื้นฐาน ในการก้าวเข้าสู่วิชาชีพสื่อสารมวลชนก็เป็นภารกิจสำคัญของสถาบันอิศราที่ได้ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ?การ ทำข่าวด้านสิทธิเด็ก? หรือ พิราบน้อยยูนิเซฟ ให้กับนิสิต/ นักศึกษาที่ศึกษาในสาขาการสื่อสารมวลชนหรือนิเทศศาสตร์ โดยการสนับสนุนจากองค์การยูนิเซฟที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

ผู้ อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา กล่าวต่อว่า ล่าสุดสถาบันอิศราร่วมกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยได้ให้ ความร่วมมือ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ในการจัดหาวิทยากรและพี่เลี้ยงที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำข่าวสำหรับ การอบรมเชิงปฏิบัติการ ?โครงการ KTB เยาวชน คนรักข่าว? รุ่นที่ 3 ระหว่างวันที่ 10-12 สิงหาคม 2550          ณ ศูนย์ฝึกอบรม บมจ.ธนาคารกรุงไทย (เขาใหญ่) จังหวัดนครราชสีมา โดยผู้เข้าอบรมประกอบด้วยนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียน 16 แห่งที่ธนาคารให้การสนับสนุนด้านการศึกษา จำนวน 47 คน ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มทักษะการเขียนข่าว การผลิตข่าวในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนการค้นหาประเด็นข่าวและวางแผนการทำข่าว รวมทั้งการลงพื้นที่ทำข่าวจริงและฝึกปฏิบัติในการผลิตหนังสือพิมพ์ทำมือโดย มีทีมวิทยากรและพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด

ด้าน นางสาวอาภาภรณ์ หาโส๊ะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน พิมานพิทยาสรรค์ จังหวัดสตูล หรือ ?น้องอาร์? หนึ่งในผู้เข้าอบรม ?โครงการ KTB เยาวชนคนรักข่าว? รุ่นที่ 3 ซึ่งรับหน้าที่เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ทำมือพิงค์นิวส์ กล่าวว่า มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมอบรมครั้งนี้เนื่องจากการจัดอบรมอย่างนี้ไม่ได้ จัดขึ้นง่ายๆ และอยากด้วยรู้ว่านักข่าวทำงานอย่างไรซึ่งทำให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ถือได้ว่าการอบรมครั้งนี้เป็นกำไรชีวิตที่หาได้ยากเพราะคนอื่นอาจจะไม่ได้มี โอกาสอย่างนี้ทุกคน ตอนแรกเข้าใจว่าการทำข่าวเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่เหนื่อยมาก แต่พอได้มาลองทำจริงๆ จึงได้รู้ว่าเป็นงานที่ค่อนข้างหนักและต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว อย่างไรก็ตาม แม้โดยส่วนตัวไม่ได้มีความฝันที่จะเป็นนักข่าวเนื่องจากต้องการเป็นเภสัชกร แต่ก็มีความสนใจในด้านงานประชาสัมพันธ์ซึ่งเชื่อว่าจะนำความรู้ที่ได้รับจาก การอบรมครั้งนี้ไปใช้ประโยชน์ได้

ขณะที่ นายฐิติรัตน์ ชนไพโรจน์  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียน มุกดาหารพิทยานุกูล จังหวัดมุกดาหาร หรือ ?น้องแพน?  บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ทำมือนภากาศโพสต์ ในการอบรมโครงการเดียวกัน กล่าวว่า การได้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้มี ประโยชน์มาก เพราะได้รับความรู้ไหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำหนังสือพิมพ์หรือเรื่องคาร์บอนเครดิตที่ไม่เคยรู้ว่าก่อน ว่าเป็นแนวคิดที่นำมาใช้กำกับดูแลสภาพแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากการปล่อย ก๊าซพิษจากภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้เรื่องการทำงานเป็นทีมกับเพื่อนที่มาจากหลากหลาย โรงเรียน โดยตอนแรกยังไม่สนใจที่จะเป็นนักข่าว แต่เมื่อได้มาอบรมแล้วรู้สึกชอบเพราะตื่นเต้นดีและได้อัพเดตความรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

ทาง ด้านนายสหัส ตรีทิพยบุตร รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงาน บมจ.ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ธนาคารได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนเยาวชนได้เรียนรู้เรื่อง การทำข่าว การเขียนข่าว ถือเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับเด็กๆ กลุ่มนี้ เพราะวิทยากรที่สถาบันอิศราจัดหามานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์จริง สามารถถ่ายทอดกระบวนการทั้งหมดได้ภายใน 2 วัน เชื่อว่าเยาวชนกลุ่มนี้บางส่วนอาจจะตั้งปฏิธานแน่วแน่ที่จะเป็นนักข่าวใน อนาคตภายหลังจากเสร็จสิ้นการอบรม

รอง กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงาน บมจ.ธนาคารกรุงไทย กล่าวต่อว่า ธนาคารยินดีที่จะให้การสนับสนุนในการจัดกิจกรรมดีๆ อย่างนี้ต่อไป เพราะมีโรงเรียนที่ธนาคารให้การสนับสนุนด้านการศึกษาทั้งหมด 60 โรงเรียน ที่สามารถคัดเลือกนักเรียนที่สนใจมาเข้าร่วมโครงการได้ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมดังกล่าวธนาคารคงไม่สามารถดำเนินการได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจาก สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยดังเช่นการอบรมทั้ง 3 รุ่น ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ธนาคารได้เตรียมแผนในการจัดสรรงบประมาณสำหรับการจัดอบรมในปีต่อไปแล้วซึ่งจะ ต้องมีการหารือในการดำเนินกิจกรรมร่วมกันในโอกาสต่อไป.